วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565

εpsilonΦ - Raison d'être『レゾンデートル』

 εpsilonΦ - Raison d'être (นิยามแห่งชีวิต)『レゾンデートル』

คำร้อง: *Luna

ทำนอง: *Luna

เรียบเรียง: *Luna

 

Music Video (Full ver) https://www.youtube.com/watch?v=ADXngz8CeUA

ฟังเพลงถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ https://bmu.lnk.to/Friction


—-


จับทุกสิ่งสรร พลิกคว่ำลงให้หมดสิ้น

ใช่แล้ว เพื่อให้ทุกหนแห่งใด

ไม่ว่าที่ใด จะมองหาตัวผมพบจนเจอ


สร้างความรวดร้าวให้ผู้อื่น ความอ่อนหัดน่าสะอิดสะเอียด

ทับถมสิ่งนั้นมากมายเพื่อหลบซ่อนน้ำตาที่แท้จริง

โลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงรูปทรงสักวันเรื่อยไป

ถ้าอย่างนั้นต่อไปมันจะย้อมด้วยสีสันใดกัน


ผมเพียงแค่หวาดกลัวพรั่นพรึง ต่อการถูกลืมจากใครต่อใคร

แม้แต่ตอนนี้ร่างยังสั่นไหว

ขอให้เสียงร้องนี้ สลักบาดลึก


แม้จะได้สิ่งของสิ่งใดที่ไม่ต้องการมากมาย

สิ่งใดสิ่งนั้นไม่มีคุณค่าความหมายอะไรเลย

เหล่าถ้อยคำที่ผมต้องการ ไม่เคยแม้จะส่งมาให้ได้ยิน

แม้จะเย็บปะร้อยรูปร่างเป็นทรงยังไง

สิ่งใดเหล่านั้นไม่มีคำนิยามความหมายอะไรเลย

เหล่าภาพทิวทัศน์ที่อยากเห็นแท้จริง ผมจะตะเกียกตะกายไปให้ถึง

ระหว่างนั้นอย่าเพิ่งทอดทิ้งผมไปซะละ


ไม่ต้องมาเข้าใกล้และทำเป็นรู้เรื่องทุกอย่าง

ผมไม่ต้องการอยู่ในสถานที่เสแสร้งพวกนั้น


ผมเพียงแค่หวาดกลัวพรั่นพรึง ต่อการถูกเมินเฉยจากใครต่อใคร

แม้แต่ตอนนี้ร่างยังสั่นไหว

ขอให้ดนตรีนี้ อย่าได้หยุดลง


แม้จะพังทำลายสิ่งของสิ่งใดของใครมามากมาย

หัวใจของผมไม่เคยได้รับการเติมเต็มเสียที

ทำไปทั้งตัวผมที่ไม่อาจได้เอ่ยพูดถ้อยคำให้ใครเข้าใจ

แม้จะเลียนแบบออกมาเป็นพื้นผิวกายหยาบ

สิ่งใดเหล่านั้นไม่อาจนำพาเพื่อได้ซึ่งสิ่งใดทั้งนั้นเลย

ตัวตนที่อยากที่จะเป็นแท้จริง ผมจะตะเกียกตะกายไปให้ถึง


ไฟที่จุดขึ้นเงียบงันในวันนั้น แสงไฟนั้นสั่นคลอนใจสั่นไหว

ถามถึงอยากไปยังที่ใด ถามถึงอยากเห็นสิ่งใด

ผมวิ่งออกไปอย่างทุรนทุรายโดยไม่รู้อะไรทั้งนั้น

แม้จะเป็นอย่างนั้น มีเพียงสิ่งหนึ่ง_


ผมอยากเปล่งร้องเสียงเพลงของผมไปยังนครหม่นสีเทานภาสูญเปล่าไร้จีรัง

ไปให้ไกล ไปให้ไกล ช่วยส่งไปให้ถึงที ช่วยรู้สึกถึงตัวผมที

ตัวผมอยู่ที่แห่งนี้


แม้จะได้สิ่งของสิ่งใดที่ไม่ต้องการมากมาย

สิ่งใดสิ่งนั้นไม่มีคุณค่าความหมายอะไรเลย

เหล่าถ้อยคำที่ผมต้องการ ไม่เคยแม้จะส่งมาให้ได้ยิน

แม้จะเย็บปะร้อยรูปร่างเป็นทรงยังไง

สิ่งใดเหล่านั้นไม่มีคำนิยามความหมายอะไรเลย

เหล่าภาพทิวทัศน์ที่อยากเห็นแท้จริง ผมจะตะเกียกตะกายไปจนถึงให้ดู

ระหว่างนั้นอย่าเพิ่งทอดทิ้งผมไปซะละ

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565

εpsilonΦ - Egoistic SaiΦ

Egoistic SaiΦ

คำร้อง: Aratame Shun

ทำนอง: Fujii Kentaro

เรียบเรียง: Fujii Kentaro

 

ฟังเพลงถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ https://bmu.lnk.to/Friction
—-

โอบกอดเรื่องราวดาษดื่นแสน Dramatic

ตรรกะทั้งหลายที่เข้าใจผิด เหล่าคนที่ไม่ยอมแพ้ไม่เลิกราเต็มไปหมด

Hey come on! Hey come on! Hey common! 

นี่ เป็นอะไรไปล่ะ?


ah

บนสเตจที่อยู่ตรงนั้นตรงนี้นับไม่ถ้วน

Story สุดสามัญ ไม่มีใครคิดจะมองมาที่แกหรอก

ความมานะบุกบั่น ความหวังอะไร ไม่สลักสำคัญเลยน่ะสิ

ความคาดหวัง อนาคต ทั้งหมดไร้สาระสิ้นดี


ทิวทัศน์ที่เห็นด้านหน้า

ไม่ว่าเมื่อไรก็ไม่มีใครอยู่ตรงนี้หรอก


ฉันจะแสดงให้แกเห็นถึงโลก Egoistic แห่งนี้

ride on ต่อทุกสิ่งที่ฉายบนดวงตา

ภายในความเป็นจริงแสนโหดร้ายที่ไม่อาจทำอะไรมันได้เลย

เงยหน้าขึ้นมามองสิ เงยหน้าขึ้นมามองสิ เงยหน้าขึ้นมามองสิ เห็นมั้ย

แกแสดงให้ฉันเห็นถึงเอกลักษณ์แสน Eccentric มาสิ

กำลังเหมาะให้ฉันได้แก้เบื่อกำลังดี

แกไปร้องขอสุดเต็มกำลังในชาติหน้าก็ยังได้นี่

ถึง fiction ที่เปี่ยมอุดมคติแสนเสน่ห์และมากปาฏิหาริย์


(fi feel like)

(fi feel like)


ถูกหุ่นกระบอกที่ประดับประดามาหลอกลวง

(You are fake me out ทั้งที่เชื่อใจไปแล้ว)

ไม่เข้าใจว่าสิ่งใดเป็นของจริงหรือของปลอมเช่นเดิมเสมอมา

เหมือนคนโง่เง่าที่ทั้งรักสุดแสนและเกลียดสุดขั้ว

นี่ แกก็คิดเหมือนกันใช่มั้ย?


ah

ถูกช่วงชิงผู้ศรัทธาสมองทื่อไปเมื่อไรไม่ทันได้รู้

(You are take me out ไปยังดินแดนใดสักแห่ง)

ผู้กล้าผู้องอาจไปถวายสักการะให้แก่ผู้ใดงั้นรึ?

พระผู้เป็นเจ้าพระพุทธเจ้าพระผู้ใดหรือสภาพตนเองเช่นนี้


แม้จะเลือกเชื่อถึง

เหล่าคำตอบที่ถูกชี้มา (ไม่ได้รับความช่วยเหลือหรอก)

การใช้ชีวิตที่โดนกักขังในภาพเพ้อฝันนั้นช่าง

งี่เง่าเหลือเกินคณานัก


ฉันจะแสดงให้แกเห็นถึงบั้นปลาย Egoistic นี้เอง

ride on ต่อประวัติศาสตร์ที่ทับถมเรื่อยมา

เป็น Industrial ที่มัวแต่เพ้อเจ้ออยู่เช่นเดิม

หลีกทางไปซะ หลีกทางไปซะ หลีกทางไปซะ เห็นมั้ย

ความจริงแท้ที่ซ่อนเร้นใน Trick การพร่ำพรรณา

สีหน้าตอนที่ได้รับรู้ถึงจุดนั้นช่างยอดเยี่ยม

ไหนๆก็ได้รู้แล้วก็ทำฝันให้เป็นจริงในชาตินี้ก็ยังได้นี่

ถึง fiction ที่เสื่อมสลายแสนปลุกเร่งเร้าและสุดโศกนาฏกรรม


เสมอภาคไม่เท่าเทียม

ในกฏเกณฑ์แสนบิดเบี้ยวนี้

(บัญชาผู้ใด ไม่อาจเลือกได้)


เถรตรงและขดงอ

ความเบาะแว้งน่าอดสูอยู่ทุกที่

(ใครมันจะสามารถΦ บอกฉันมาที)


คำขอที่ไม่อาจบรรลุได้เป็นจริง ไม่มีความหมายอะไรเลย

(ไม่ว่าจะผ่านไปแค่ไหน)

อีกเพียงนิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้น คำพูดพวกนั้น

ฉันเบื่อที่จะฟังแล้ว จะพูดยังไงก็ช่างแล้ว


ฉันจะแสดงให้แกเห็นถึงโลก Egoistic แห่งนี้

ride on ต่อทุกสิ่งที่ฉายบนดวงตา

ภายในความเป็นจริงแสนโหดร้ายที่ไม่อาจทำอะไรมันได้เลย

เงยหน้าขึ้นมามองสิ เงยหน้าขึ้นมามองสิ เงยหน้าขึ้นมามองสิ เห็นมั้ย

แกแสดงให้ฉันเห็นถึงเอกลักษณ์แสน Eccentric มาสิ

กำลังเหมาะให้ฉันได้แก้เบื่อกำลังดี

แกไปร้องขอสุดเต็มกำลังในชาติหน้าก็ยังได้นี่

ถึง fiction ที่เปี่ยมอุดมคติแสนเสน่ห์และมากปาฏิหาริย์


(fi feel like)

dive ไปยัง ending

(fi feel like)

ท้ายสุดคือ live

(fi feel like) fi feel like

εpsilonΦ - Heroic

Heroic คำร้อง: umikun ทำนอง: umikun เรียบเรียง: Toshiro 

ฟังเพลงถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ https://bmu.lnk.to/Friction


—-


ราวกับลำคอแห้งเหือดสุดแสน ราวกับปล่อยตัวจมดิ่งลึกลงไป

ดวงอาทิตย์ฉายเต็มกำลัง อยู่ห่างไกลไกลสุดแสน

เหมือนเผอิญว่าป้ายสัญญาณตั้งอยู่ตรงนั้นมาแต่ไหนแต่ไร

ทุกคนบอกกับฉันด้วยสายตาแบบเดียวกันอย่างนี้

“Stop! Stop!” แกทำไม่ได้หรอก เห็นมั้ยล่ะ

“No! No!” ทำไปก็ไม่ได้อะไรตอบแทนหรอกน่า

เมโลดี้นี้ยังคงสูบฉีดไหลเวียนบนโลกที่แสนเย็นชาใบนี้


Please somebody tell me the hero’s way

ดีดออกมาให้เกิดเสียงซะ


Horoic สถานการณ์ผลิกผัน ไปช่วงชิงแสงสปอร์ทไลท์มา

Salvage เหล่ายีนด้อยทั้งหลาย สิ่งที่สมควรให้รักคือผลงานที่ล้มเหลว

Stoic* ในกลุ่มเป้าหมายเพื่อเปรียบเทียบ คอยกีดกันไม่ว่ากับ Hate แบบไหน

จิตวิทยาเชิงลึก*เป็นเรื่องของ Teenage พอวาดฝันได้ตามใจนึกบนหน้ากระดาษแผ่นแรก

หากจะยังมีตัวฉันยืนหยัดอยู่ตรงนี้


ราวกับประทับตราตรึงในดวงตาอย่างแรงกล้า ราวกับหลบเลี่ยงต่อทุกสิ่งอย่าง

ดวงอาทิตย์ฉายเต็มกำลัง สุดฟากแห่งนภาไกล

สามัญสำนึกที่เห็นทุกอย่างผิดเพี้ยนไปตั้งแต่แรกเริ่ม

ทุกคนบอกกับฉันด้วยสายตาแบบเดียวกันอย่างนี้

“Stop! Stop!” แกทำไม่ได้หรอก เห็นมั้ยล่ะ

“No! No!” ทำไปก็ไม่ได้อะไรตอบแทนหรอกน่า

เมโลดี้นี้ยังคงสูบฉีดไหลเวียนบนโลกที่แสนเย็นชาใบนี้


ฉันพยายามไม่หุนหันเร่งเหยียบ Accel ที่มีฝุ่นเกาะเขลอะ

แม้แต่ตอนนี้กุญแจที่เป็น Phases ก็ยังคั่นอยู่ที่ระหว่างนิ้วของฉัน จงส่งไปถึง


Please somebody tell me the hero’s way

ดีดออกมาให้เกิดเสียงซะ


Horoic สถานการณ์ผลิกผัน ไปช่วงชิงแสงสปอร์ทไลท์มา

Salvage เหล่ายีนด้อยทั้งหลาย สิ่งที่สมควรให้รักคือผลงานที่ล้มเหลว

Stoic ในกลุ่มเป้าหมายเพื่อเปรียบเทียบ คอยกีดกันไม่ว่ากับ Hate แบบไหน

จิตวิทยาเชิงลึกเป็นเรื่องของ Teenage พอวาดฝันได้ตามใจนึกบนหน้ากระดาษแผ่นสุดท้าย

ต้องมีตัวฉันยืนหยัดอยู่ตรงนี้แน่นอน


---


note

- Stoic: คิดว่าใช้ในความหมายเป็น waseieigo (ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้คำอังกฤษ ความหมายเป็นคนละแบบกับดั้งเดิม) จะหมายถึง “ความเข้มงวดต่อตัวเอง” ซึ่งรากมาจาก Stoic ที่แสดงถึง ลัทธิสโตอิก (Stoicism) “คุณธรรมคือความดีหนึ่งเดียว (virtue is the only good)” ทุกสิ่งไม่ว่าจะดีหรือร้ายมีคุณค่าทำให้ก่อเกิดคุณธรรม และให้มนุษย์ยึดมั่นต่อตรรกะความคิดตรงนี้ ก็ดูเกี่ยวเนื่องกลายๆบริบท เส้นทางวีรบุรุษในแบบของตนเอง ในเพลงนี้

- จิตวิทยาเชิงลึก: Depth psychology จิตวิทยาที่ว่าด้วยบทบาทของจิตไร้สำนึกที่มีต่อพฤติกรรมของมนุษย์ ครอบคลุมทั้งจิตวิเคราะห์และจิตวิทยา

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2565

εpsilonΦ - YUMENOATO

YUMENOATO

ประพันธ์: Fujii Kentarou


ฟังช่องทางถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ https://bmu.lnk.to/Friction


—-


Unnecessary เสียงรบกวน แผ่กระจายลุกลาม

ดินแดนแห่งนี้เป็น Wasteland

ไม่ว่าใครต่างใฝ่เฝ้ารอจดจ่อแทบทนไม่ไหว

เส้นทางของ Wars ไร้ซึ่งสิ้นสุด


(Get down!)

ความเป็นไปได้ คือข้อคลี่คลายแสนพิศวงไม่ว่าสำหรับใครคนไหน

(สามัญชนทั่วไปย่อมล้มเลิกอย่างเสียไม่ได้ ยืนกรานปฏิเสธตนอย่างหยิ่งผยอง)

Shout it out! เรื่องขัดแข็งขัดขาจากคนนอกว่า Even? ช่างโอ้อวดกันเสียเหลือเกินนะ

(Looking from above เมื่อพลาดโอกาสทำแต้มประตู)


เพียงช่วงชิงไปและทำลายมัน ล้วนเป็นร่องรอยฝั่งฝันของทหารหาญ

(หัวใจสูบฉีดพุ่งพล่านอย่างไม่ทันนึกคิด และความโดดเดี่ยวที่มองหยามคนโง่เขลา)

ทุกสิ่งอย่างนั้นเป็นความภาคภูมิของใครผู้ใด?

(Only know นั่นคือ FAN เดนตายที่ชมได้ไม่มีเบื่อหน่าย)


ให้คำสัตย์!

No place (to) escape

คำตอบมีเพียงอย่างเดียว เสียงโอดครวญไร้ร่ำร้อง ความปรารถนากระหายไร้ทางสิ้นสุด

Fanfare ที่เป่าเสียงเริ่มสะท้อนก้องเพียงในซอกสมองตัวเอง

ไม่ว่าใคร (ฝูงนกแร้งกา Kick about!)

ไม่เคยรู้ (จุดจบของความทุกข์ลำเค็ญ We come back)

Fighters ที่กร่างว่าตนแกร่งอย่างเดียวดาย (Cry out!)

Crazy Game ที่ถูกจัดฉากไว้ (Never give up hope)

จงร่ายรำอย่างสง่างาม Trickster


(แขกคับคั่งถาโถม NOW!)

จะใครคนไหนล้วนแต่มัวมองยังฝัน จึงไม่ทันได้รู้

(เหล่าผู้ซื่อสัตย์จักเป็นผู้แข็งแกร่ง หรือจักตกเป็นทาสของเงินตรา)

You know me? เป็น Slave ของ Raven Heaven ที่ไร้วิจารณญาณรึไง? ลำบากแย่นะ

(แล้วคิดว่าช่วงจุดสูงสุดของชีวิตจะมาถึงเมื่อไหร่ล่ะ Are you satisfied?)


เฝ้าวิงวอนขอและพ่ายตายจาก Chain of Dream ราวกับวัชพืชในหน้าร้อน

(ท้ายสุดเราไม่อาจหลีกหนี Bind ให้พ้น ย่อมให้ Mind ไม่รับรู้ถึงการปนเปื้อน)

รีบตัดขาดบอกลาเสียที เหล่าเรื่อง Farce ที่เป็นเพียงคำสวยหรูดีแต่พูด

(แม้แต่เศษเสี้ยวสามัญสำนึกยัง Bounce การร่ายรำที่ประเมินว่าเป็นไปไม่ได้ Dance)

เพราะการรุดหน้าอย่างไร้ทิศทางเป็นสภาพอดสูน่าสังเวช?


Unnecessary เสียงรบกวน แผ่กระจายลุกลาม

ดินแดนแห่งนี้เป็น Wasteland

ไม่ว่าใครต่างไม่อาจล่วงรู้ถึงคำตอบใดใด

ร่องรอยฝั่งฝันของเหล่าผู้ไร้ความฝันใฝ่

(Only you ที่จะ Dive ไปยังเส้นทางที่ไม่เคยได้รู้)


จงกู่ร้อง!

โชคเข้าข้างหรือลางร้าย แกนั่นแหละเป็นคนตัดสินใจเองซะ

เพราะ Real มิอาจเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปได้คือ Your strength

บรรพบุรุษยุคก่อน ยังเคยเป็นแดนต่อสู้อันแสนขมขื่น

ยากที่จะดิ้นรน (ในสนามรบมีเพียง Dead or Alive)

ตามหาปัจจุบันตอนนี้ให้เจอเสียสิ


ให้คำสัตย์!

No place (to) escape

คำตอบมีเพียงอย่างเดียว เสียงโอดครวญไร้ร่ำร้อง ความปรารถนากระหายไร้ทางสิ้นสุด

Fanfare ที่เป่าเสียงเริ่มสะท้อนก้องเพียงในซอกสมองตัวเอง

ศัตรูแท้ (เสียงร้องยินดีไม่สมประกอบ Shit!)

คือตนเอง (ศัตรูฉกาจที่สมแก่การประหัตให้พ่าย)

แม้แต่ความเดียวดายยังแสน Fantastic (Magic)

Empty War อันไม่รู้จักหมดสิ้น (Never ending war)

บนเวทีอันไม่จีรังและยั่งยืน (Aim at the top)

จงร่ายรำอย่างสง่างาม Trickster


---


note:

YUMENOATO: แก่นและคอนเซปต์ของเพลงนี้ เราคิดว่ามาจากกลอน Yume no Ato ค่ะ

น่าจะอธิบายเนื้อความเพลงกำชับสุดแล้ว 555 อ่านเพิ่มเติมจากที่เคยคิดไว้ในนี้ค่ะ https://twitter.com/aykawgg/status/1437716723726094336


Raven Heaven: อีกาในภาพลักษณ์ทั่วไปอาจเป็นตัวแทนของความชั่วร้าย แต่อีกแง่ในพงศาวดารก็มีการนำอีกาเป็นภาพลักษณ์ของ “ข้ารับใช้ของทวยเทพ” เช่นกัน เพราะมีการเสริมน้ำหนักด้วยเรื่องเล่าว่า อีกา (หรือสัตว์ประเภทนกอื่นๆ) มีหน้าที่ขนส่งดวงวิญญาณบนพื้นโลกไปยังสวรรค์, ในแง่คำพังเพย

ก็ใช้ตัวอีกาเป็นสัญญะของการหวนคืนสู่รังบ้านเกิด เพราะเสียงร้องของอีกาที่ร้องดังเมื่อกลับมาถึงรังด้วย (อ้างอิง https://www.weblio.jp/wkpja/content/%E3%82%AB%E3%83%A9%E3%82%B9_%E3%82%A4%E3%83%A1%E3%83%BC%E3%82%B8

สำหรับเพลง YUMENOATO คิดว่าในประโยคนี้จะสื่อถึงบริวารที่ทำตามหน้าที่โดยไร้ข้อโต้แย้ง

εpsilonΦ - Orthros

Orthros คำร้อง: TEQNICA ทำนอง: TEQNICA เรียบเรียง: eba 

Music Video (Short ver) https://www.youtube.com/watch?v=upTLKnMBtP4

ฟังเพลงถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ https://bmu.lnk.to/Friction


—-


ตาชั่งที่บิดเบี้ยว เคียงข้างตัวฉันตลอดมายังคงมี ใบหน้าที่เหมือนกันและเค้กที่ถูกหั่นครึ่ง

หนทางนำสู่ห้วงอเวจีอันเปี่ยมแน่นด้วยคุณภาพและปริมาณ แห่งบาปแสนเป็นมิตรที่แบ่งปันให้กัน

หลอดไฟที่เสื่อมลงสลายลงไป หันข้างหาฉันตลอดมายังคงเห็น ใบหน้าแสนกลัดกลุ้มและไอศกรีมที่ไม่ได้แตะ

หลอมละลายรวมทั้งน้ำไขสันหลังและหยาดน้ำตาอีกสิ ช่างเป็นสรวงสวรรค์ของเหลือประทาน


(สติสามัญ? วิปริต?) สายสัมพันธ์ต้องสาป

(สอนตื่นรู้? กล่าวหาว่าร้าย?) คว้านแผลเป็นให้บอบช้ำ

(สิ้นหวัง? ใฝ่หวัง?) นายเรียกว่าความรักใช่ไหมล่ะ?

I know, I know


Orthros

จะเป็นละครโศกหมอง หรือจะละครแสนสุข ถกเถียงมิอาจลงรอยกัน

ปิศาจตนนั้น (อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา)

ไม่อาจได้รับการยินยอมปลดปล่อยจากกรงสู่โลกแสนไพศาล

Orthros

หากฉันทุบหัวนั้นให้แหลกเละไป จะยังได้รับความช่วยเหลือหรืออย่างไร

เพราะในตัวพวกเรา (อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่)

ไม่อาจให้ยามหิมะละลายมาเยือนหาได้เลย*

หากจะมีการกลั่นแกล้งจากฟากฟ้าโชคชะตา

ขอดิ้นรนให้หลุดพ้นอีกสักครั้ง สู่ฟ้านภาสีคราม


เวทนาแสนบิดเบี้ยว แรงสั่นสะเทือนถึงเครื่องในในกายฉัน เมื่อได้ยินเสียงขำขันเยาะเย้ย และ Fake ของฝีเท้า*

หลบใต้หลังเงาที่ตีตนก่อนไข้ หาผู้ที่เข้าใจ สงสารแลอาดูร จักเบิกม่านแสดงโรงละคร Grand Guignol*

จังหวะเคลื่อนไหวที่จงใจให้เคลื่อนไป เพื่อได้ยินเสียงเดือดดาลกึกก้องสุดหอมหวาน และ Phases แสนต้องเสน่ห์

ถ้ากล้าก็ลองเข้ามาดูสิ ฉันจะแบกหลังให้นายเอง

ขอบใจสำหรับความตายที่มากเกินฉันจะรับไหว*


Orthros

ยังจดจำได้อยู่ใช่ไหม? ของขวัญที่ขยี้ทำลายโดยไม่แม้แต่จะเปิดมอง

ไม่สนุกเอาเสียเลย (จะออกหัว หรือจะก้อย จะออกหัว หรือจะก้อย)

ไหนลองหันมาแว้งกัดกลับมาให้ฉันเห็นซะสิ*

Orthros

อยากมาขวางกันนักใช่ไหม? กระจกหันหากัน เศษเสี้ยวแตกกระจายได้ส่องสะท้อน

เมื่อเห็นสายตานั้น (จะออกสูง หรือจะต่ำ จะออกสูง หรือจะต่ำ)

ก็ได้ถูกสูบกลืนไปยังโลกเบื้องหลังแสนเลวทราม

ทิวทัศน์ที่หลงใหลใบไม้ผลิที่เฝ้าคอย ช่างห่างไกลแสนไกลสุดลิบตา

เตะโดคุอิจิโกะให้ร่วงหล่นไป


อย่ามัวแต่เพ้อฝันถึงฟ้านภาสีครามนั่นเลย

ช่วยทิ่มแทงหนามนั่นมาให้ทีสิ Master

เจ้าช่างน่าเวทนา ถึงเวลาของหวาน

สวาปามมูมมามอยู่ในจานเดียวกัน Brother


(สติสามัญ? วิปริต?) ตอกลิ่มแห่งการเวียนวน

(สอนตื่นรู้? กล่าวหาว่าร้าย?) โซ่ตรวนที่พัวพันกัน

(สิ้นหวัง? ใฝ่หวัง?) นายเรียกว่าความรักใช่ไหมล่ะ?

I know, I know


หากได้ฆ่าและกินมันลงท้องไป

ร่างกายนี้จะเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว?

สักวันจะมาถึง (อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่)


Orthros

จะเป็นละครโศกหมอง หรือจะละครแสนสุข ถกเถียงมิอาจลงรอยกัน

ปิศาจตนนั้น (อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา)

ไม่อาจได้รับการยินยอมปลดปล่อยจากกรงสู่โลกแสนไพศาล

Orthros

หากฉันทุบหัวนั้นให้แหลกเละไป จะยังได้รับความช่วยเหลือหรืออย่างไร

เพราะในตัวพวกเรา (อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่ อยู่หรือไม่)

ไม่อาจให้ยามหิมะละลายมาเยือนหาได้เลย

หากจะมีการกลั่นแกล้งจากฟากฟ้าโชคชะตา

แสงไฟตะเกียงริบหรี่ เฮียวกะที่ฉันไม่ต้องการ

จนกว่าตาชั่งจะโอนเอียงหาฝั่งของตัวเอง

ฉันจะเอากลับคืนมาไม่ว่าจะกี่ครั้ง

มาขย้ำกัดกินจุดจบเสียดีกว่า Brother


---


note

หิมะละลาย: สื่อถึงช่วงหิมะละลายในฤดูใบไม้ผลิ และในต้นฉบับใช้ตัวคันจิ 雪融け ที่ใช้ในความหมายการคลื่คลายจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นด้วย

fake: ทั่วไปหมายถึง ตบตา หลอกลวง แต่เราเจอในความหมายเชิงดนตรี (ไม่ทราบว่าใช้กันในสากลไหม) ว่าหมายถึงการ ด้นสดแบบจงใจให้เปลี่ยนแปลงไปจากทำนองเดิมที่มีอยู่แล้ว คิดว่าน่าจะใช้ความหมายนี้เพราะท่อนถัดไปของชูจะมีการโต้ถึง phases (วลีเพลง) ค่ะ อ้างอิง https://utaten.com/karaoke/technique/songfake/

Grand Guignol: โรงละครที่มีอยู่จริงในฝรั่งเศสปี 1897 - 1962 เนื้อหาการแสดงจะแนวสยองขวัญ ผิดศีลธรรม ดิบเถื่อน เลือดสาด gore

ความตายที่มากเกินจะรับไหว: 身に余る เป็นสำนวนถ่อมตน เมื่อได้รับคำชื่นชมหรือสิ่งดีๆ เกินตัวเอง ในด้านบวก กรณีนี้ในเพลงมาใช้กับความตายซึ่งเป็นด้านลบ จึงค่อนข้างอิมแพ็คสำหรับการเล่นภาษาอยู่ค่ะ

ลองแว้งกัดกลับมา: คิดว่ามาจากสำนวน 恩を仇で返す ฟีลชาวนากับงูเห่าที่เราทำอะไรกับคนอื่นไปแล้วกลับตอบแทนความหวังดีด้วยการหักหลังค่ะ

โดคุอิจิโกะ: 毒苺 สตอว์เบอร์รี่ป่าที่ขึ้นช่วงหน้าร้อนญี่ปุ่น

เฮียวกะ: 氷菓 ขนมของหวาน เรียกกันเฉพาะช่วงหน้าร้อนญี่ปุ่น (ตามแพ็คเกจขนมหวานญี่ปุ่นจะนิยามของหวานประเภทอื่นนอกเหนือจากไอศกรีมต่างๆ ว่าเฮียวกะ)