วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564

AAside - [Card Story] 4⭐︎ Nijo Kanata [รักบิดเบี้ยว]

 AAside

official website: https://aaside.bushimo.jp

บทแปลทั้งหมดเป็นการแปลส่วนตัวเท่านั้นค่ะ


คำเตือน

  • เนื้อหาอาจมีส่วนที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจได้ ควรใช้วิจารณญาณ


------


Card Story

4⭐︎  Nijo Kanata [รักบิดเบี้ยว]
วิธีการปลด: อัพเกรดการ์ดถึงขั้น 3



ชื่อตอน: คืนเหงา



[หลังแสดงไลฟ์จบ]


คานาตะ: เหนื่อยหน่อยนะทุกคน--!

เอาล่ะ ถึงเวลาปาร์ตี้หลังเลิกไลฟ์แล้วนะ!!


ชู: ผมขอผ่าน รู้สึกมีไข้ยังไงไม่รู้ อยากจะรีบกลับไปพักผ่อนน่ะ


เรย์จิ: ชู ไหวรึเปล่าครับ?

ไปโรงพยาบาลเพื่อความไม่ประมาทจะดีกว่า… เดี๋ยวผมเตรียมรถไว้ให้ครับ


ฮารุกะ:  …


คานาตะ: เอ๋ เดี๋ยวสิ! เดี๋ยว!

ทุกคนกลับกันหมดเลยหรอ!?


ทาดาโอมิ: คานาตะคุง ผมไปด้วยได้นะ


คานาตะ: สมเป็นรุ่นพี่คุรามะ…!!

ใจดีจัง! เทวดา!!


ทาดาโอมิ: คือว่า พวกเราไปดูหนังด้วยกันสองคนจะเป็นอะไรมั้ยนะ?


คานาตะ: เอ๊ะ? ปาร์ตี้ด้วยการ...ดูหนัง?


ทาดาโอมิ: อารมณ์ของผมคงไฮป์อยู่ละมั้ง… เหมือนความรู้สึกยังไม่คงที่เลย

ในเวลาแบบนี้ผมจะดูหนังแนวเลือดสาด (splatter) R15 เพื่อให้จิตใจสงบลงน่ะ


คานาตะ: … เอ๊ะ? 



[แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ]


คานาตะ: เอื้อก… แย่ละ พอปิดตาลงฉากนั้นก็ลอยมาเลย…

ถ้าขอกลับบ้านตรงๆ เหมือนทุกคนก็ดี...


คานาตะ: ไม่อยากอาหารแล้วด้วย วันนี้รีบนอนดีกว่า…

อา แต่ว่า กลัวอะ!! นอนคนเดียวไม่ได้แน่เลย!! ทำไงดี!!


ชู: ฟี้….ฟี้…


คานาตะ: อะ อ้าว…? ชูคุงมานอนอะไรตรงนี้ละเนี่ย

นี่ เดี๋ยวก็เป็นหวัดเอานะ?


ชู: อือ….


คานาตะ: (ดูทรมานแฮะ… เมื่อกี้ก็เหมือนบอกว่ามีไข้นี่เนอะ)


คานาตะ: เอ้าฮึ้บ…! ฮะๆ ชูคุง ตัวเบาจังเลยน้า


ชู: ฟี้….ฟี้…


คานาตะ: ฮึฮึ ตอนหลับอยู่ก็ทำหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนเทวดาแท้ๆ เน้อ


คานาตะ: (จะว่าไป เมื่อตอนฉันยังเด็ก พอร่างกายอ่อนเพลีย

รู้สึกว่า พี่ก็จะคอยอุ้มหลังให้ฉันแบบนี้เหมือนกันนี่นะ)

(รู้สึกอุ่นใจ มากกว่านอนอยู่บนเตียงคนเดียวเป็นไหนๆ

ก็เพราะอยากจะแนบอิงให้ความอบอุ่นบนแผ่นหลังนั้นติดตัวมานี่นา)

(ถ้าวันนั้นมาถึงอีกครั้ง…)


คานาตะ: จะไปมีได้ยังไงกันเล่า


(End)

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2564

AAside - [Character Story] Nijo Kanata ตอนที่ 1

 AAside

official website: https://aaside.bushimo.jp

บทแปลทั้งหมดเป็นการแปลส่วนตัวเท่านั้นค่ะ


คำเตือน

  • เนื้อหาอาจมีส่วนที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจได้ ควรใช้วิจารณญาณ


------


Character Story 

Nijo Kanata - 1 - คานาตะ กับ Fes
วิธีการปลด: สะสมถ้วยคานาตะครบ 20 ใบ




[สตูดิโอฝึกซ้อม]


คานาตะ: ฮึ่มฮึฮึ่-ม


ทาดาโอมิ: คานาตะคุง ท่าทางสนุกจัง
ผมถามได้มั้ยว่าทำไมถึงสนุกล่ะ?


คานาตะ: ได้สิ!

ช่วงนี้พี่อะ หมกตัวในห้องไม่ค่อยออกไปไหนนี่?

เพราะพี่ ฝึกอย่างหนักเลยล่ะ

เมื่อวานก็เหมือนว่าจะซ้อมกีตาร์ยันดึกเลย


ทาดาโอมิ: ซ้อม? ทำไมกันนะ…


คานาตะ: มันแน่อยู่แล้วสิ ก็ซ้อมเพื่องานแสดง Fes ไง--

เพราะงั้นฉันเลยครั้นเนื้อครั้นตัว อยากยืนบนเวทีเดียวกันบนพี่เร็วๆ จนตัวสั่นเลยล่ะ


ทาดาโอมิ: หืม? หรือก็คือ …

คานาตะคุง นายอยากอยู่บนเวทีเดียวกันกับฮารุกะคุง ก็เลยขึ้นงานแสดง Fes หรอ?
ตัวคานาตะคุง ไม่ได้อยากขึ้นแสดง Fes ด้วยความตั้งใจจากตัวเองนี่เอง


คานาตะ: เอ่อ… ประมาณนั้นหรือเปล่านะ?

ก็ถ้าพี่อยู่ด้วย ฉันก็มีเหตุผลพอจะอยากขึ้นแสดงแล้วอะสิ

อ๊ะ แต่ฉันไม่ได้จะขึ้นแสดงเล่นๆ นะ!
ก็เนี่ย-- เพราะพี่ออกจะตั้งตารอคอยนี่นา!


ทาดาโอมิ: ฮารุกะคุง ตั้งตารอเล่นในงาน Fes หรอ… ผมไม่รู้เลย

นายเข้าใจฮารุกะคุงดีจังเลยเนอะ


คานาตะ: แน่สิ ก็เราเป็นแฝดกันนี่นา!

… แต่ก็ น้า… จริงๆ มีจุดที่ฉันก็ไม่พอใจเหมือนกัน

ก็ถ้าฉันยืนอยู่แถวๆ นี้ พี่ก็จะไปยืนอยู่แถวนู้นใช่ม้า?


ทาดาโอมิ: อืม นั่นสินะ


คานาตะ: ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็จะไม่ค่อยเห็นพี่ตอนกำลังเล่นกีตาร์น่ะ……


ทาดาโอมิ: เอ… คานาตะคุง อยากเห็นฮารุกะคุงตอนกำลังแสดงหรอ?


คานาตะ: คือฉัน เริ่มเล่นเบสเพราะหลงใหลในตัวพี่นี่นา
บางทีก็อยากเห็นพี่ในฐานะผู้ชมเหมือนกันนะ


ทาดาโอมิ: แต่ว่า… ต้องเลือกระหว่าง ยืนบนเวที กับเป็นผู้ชม สินะ


คานาตะ: ใช่น่ะสิ-- อ๋า เลือกฝั่งไหนดีน้า

อืมม…


คานาตะ: ยืนบนเวทีเดียวกันน่าจะดีสุดละมั้ง

ถ้าเป็นฝั่งคนดู ก็จะห่างจากเวทีเกินไป
ก็ถ้าเห็นพี่ที่อยู่ในที่ที่ฉันเอื้อมไม่ถึง …


คานาตะ: …  ฉันคงทนไม่ไหว

แทบจะอยากกระชากตัวเขาลงมาจากเวทีเลยล่ะ


ทาดาโอมิ: ถ้าทำเรื่องแบบนั้น คงเอะอะน่าดูเลยเนอะ

แถมฮารุกะคุงเอง…


ทาดาโอมิ: จะทำสีหน้ายังไง ผมเริ่มอยากเห็นขึ้นมาเลย


คานาตะ: ....


คานาตะ: บ้าน่าา รุ่นพี่คุรามะ ฉันล้อเล่นต่างหาก

ถ้าทำจริง คงไม่ได้ยินเสียงพี่เล่นกีตาร์พอดีสิ

… เหมือนกับตอนที่ไม่ได้ยินเสียงพี่ตอนเล่นเบสอีกแล้ว


คานาตะ: เพราะงั้น ฉันไม่ทำหรอก...

ก็ต้องอดทนเข้าไว้ นี่เนอะ


(End)

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564

AAside - [Band Story] εpsilonΦ บทที่ 2

AAside official website: https://aaside.bushimo.jp

*ปัจจุบัน เกม AAside ปิดตัวลงไปแล้ว
แต่ยังสามารถอ่านเนื้อเรื่องต้นฉบับได้ที่ช่องทาง YouTube ของโปรเจ็ค from ARGONAVIS
**เนื้อเรื่องส่วนวงดนตรี หลังเกมปิดตัวจะไม่มีเสียงพากย์ 

บทแปลทั้งหมดเป็นการแปลส่วนตัวเท่านั้นค่ะ

เราเลือกแปลภาษาถิ่นของตัวละครเป็นภาษากลางทั้งหมดนะคะ

พวกศัพท์ดนตรีเราค่อนข้างอ่อน ถ้าต้องแก้ตรงไหนบอกมาได้เลยน้า


คำเตือน

  • เนื้อหาอาจมีส่วนที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจได้ ควรใช้วิจารณญาณ

  • Toxic Relationship

  • มีการใช้คำหยาบเพื่ออรรถรส


------


Band Story

εpsilonΦ บทที่ 2 (ครอบคลุมถึงตอน 5)

ไทม์ไลน์: หลัง Main Story บท 2 ก่อนการประกาศผล Starting Live วิธีการปลด: เล่นเควสหน้าโฮม (สตอรี่ฟูลวอยซ์)




ตอนที่ 1 - เรื่องรำคาญใจของฮารุกะ



[ สตูดิโอฝึกซ้อม ]


เรย์จิ: เอาล่ะ พอจะจับทางเพลงใหม่ได้รึยัง?

ถ้าไม่มีปัญหาอะไร จะเริ่มเล่นใหม่พร้อมกันทุกคนอีกครั้งล่ะนะ


คานาตะ: ชูคุง เมโลดี้นั่นมันอะไรอะ! โรคจิตจัง!?

แขนสองข้างของฉันเล่นไม่พอหรอก!


ชู: ดีใจจริงที่ถูกใจขนาดนั้น


ทาดาโอมิ: เมื่อกี้คือคำชมหรอ?


คานาตะ: แน่นอนสิ! ถ้ามีเพลงที่ต้องใช้เทคนิคขนาดนี้

ฉันในฐานะมือเบสก็พัฒนาฝีมือไปได้อีกนะ!

เนอะพี่! ท่อนโซโล่กีตาร์ของพี่ก็เท่จังเลยเนอะ!


ฮารุกะ: รำคาญ… เงียบปากแล้วเล่นไป


เรย์จิ: เฮ้อ… จะเริ่มละนะ 3, 4---



ฮารุกะ: … เฮ้ย! หยุดเล่น!!


เรย์จิ: … เป็นอะไรไป?


ฮารุกะ: กลองกับเบส!

ทำนองมันเคลื่อนกัน ไม่รู้ตัวรึไง!?


คานาตะ: ขอโทษๆ!! พอดียังไม่ชินเลยใส่ใจกับจังหวะ Accent มากไป

ฉันเลยฟังฝั่งกลองไม่ทันน่ะ!


ฮารุกะ: แกพลาดโดยกำลังทำให้ริธึ่มพังต่างหาก!

คงไม่ได้จงใจใช่มั้ย…


คานาตะ: ยอดเลยพี่! รู้ตัวเก่งจังเลย!


ฮารุกะ: แก…!!


เรย์จิ: พอได้รึยัง…

ฉันจะระวังด้วย เริ่มซ้อมต่อได้แล้ว


ฮารุกะ: ชิ…


คานาตะ: แฮะๆ ขอโทษนะ



ฮารุกะ: (...!? หมอนั่น… ยังจะ…!)


คานาตะ: ฮะๆ ♪


ฮารุกะ: (เล่นยากชะมัด… เสียงขัดหูขัดตาเป็นบ้าไอ้นี่…!!)

…!?

โทษที… เมื่อกี้ฉัน…


เรย์จิ: ฮารุกะ พักสักหน่อยมั้ย…


คานาตะ: พี่ ขอโทษ!!

ดนตรีโดนริธึ่มของฉันดึงไปหรอ…?


ฮารุกะ: …!! โดนดึงไปงั้นหรอ…?

อย่ามากวนกันสิวะ อะไรของแก ตั้งแต่เมื่อกี้…

ดนตรีของฉันไม่ได้หลุดออกไปสักหน่อย… อย่ามาเกะกะสิวะ!!


คานาตะ: ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย!

ก็ท่วงทำนองนี้เป็นออเดอร์จากชูคุงนี่นา


ชู: ฮารุกะ ขออภัยนะ แต่ว่า ที่ลูกเล่นของเสียงเบสดีกว่า

แสดงว่าฝีมือของคานาตะดีขนาดนั้นเลยไม่ใช่หรอ?

กลับกัน ฝั่งฮารุกะควรจะดันตัวเองมากกว่านี้นะ


ฮารุกะ: ว่าไงนะ…?


ชู: คานาตะเหมือนจะเล่นไปเรื่อยเปื่อย แต่เขาฟังเสียงดนตรีอื่นไป

พร้อมเปลี่ยนตำแหน่ง Attack เอย ปรับอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้

ฉะนั้นเป็นแบบเดิมในตอนนี้ไม่มีปัญหาเลย ปรับเส้นเสียงกีตาร์ใหม่ซะนะ


ฮารุกะ: … โดนมันเล่นซะแล้วเรอะ!!


ชู: เดี๋ยวก่อน จริงอยู่ที่คานาตะเล่นจนออกนอกหน้ามากไป

แต่ก็เป็นความจริงที่นายเป็นฝั่งแพ้นี่


ฮารุกะ: หา...!?


ชู: ก่อนเริ่มไลฟ์เดี่ยว ไปขัดเกลาให้กีตาร์กับเบสเป็นหนึ่งเดียวกันก่อนเถอะ

ทำให้แขกสนุกให้ได้ ไม่งั้นไม่เรียกว่าประสบความสำเร็จหรอกนะ

จะฝึกมันตรงนี้ก็มีแต่แว้งกัดกัน

นั่นสินะ… ทั้งสองคนไปเล่นไลฟ์หน้าสถานีไหมล่ะ?


ฮารุกะ: อย่ามาล้อเล่นนะ… ทำไมฉันต้องไปกับหมอนี่...!!


ชู: ฮารุกะในตอนนี้ทำหน้าที่มือกีตาร์ไม่ได้เลยสักนิด

ไม่อยู่เสียจะดีกว่า


ฮารุกะ: นั่น--!!

(เวรเอ๊ย… ถ้าพูดมากกว่านี้จะกลายเป็นข้อแก้ตัวทั้งนั้น

พูดจาน่าเวทนาอย่าง เป็นความผิดของคานาตะ ...)


คานาตะ: ค คือว่านะ…!

ฉันอาจจะดูคนรอบข้างไม่ดีเองก็ได้!

ก็ ที่ว่าจะแสดงไลฟ์ก็ใช่ คือได้เล่นพร้อมหน้ากับทุกคนแบบนี้

ฉันเลยคึกเกินไปหน่อย….


ฮารุกะ:


คานาตะ: ถ้าเล่นไลฟ์หน้าสถานีก็อาจจะปรับให้ดีขึ้นก็ได้!

เพราะงั้นนะ… ขอร้องล่ะ พี่เล่นกับฉันเถอะ!


ฮารุกะ: ...ชิ

… ไปเตรียมตัวมาให้ดีภายในสุดสัปดาห์นี้ซะ


คานาตะ: ฮะฮะ! พี่ก็ด้วยนะ!


-------------


ตอนที่ 2 - พลังที่ดึงดูดผู้คน



[ หน้าสถานี ]


คานาตะ: แอมป์ โอเค ♪

เอฟเฟคเตอร์ ก็โอเค ♪


ฮารุกะ: หน้าสถานีนี้ คนเดินผ่านน้อยจริง...


คานาตะ: นี่ จะเล่นเพลงอะไรหรอ? ฉันน่ะนะ อยากให้พี่ร้องเพลงนั้นจัง!

เพลงที่พี่แต่งขึ้นมาในสมัยก่อน! แต่ก่อนเล่นในห้องทุกวันเลยนี่นา!

ฉันชอบเพลงนั้นจริงๆนะ!

ฟังสบายหู ทำให้ร่างกายมันแปลบๆ ขึ้นมาเอง อะไรแบบนั้น?


ฮารุกะ: อย่าพูดจาน่าขยะแขยงสิ…

อีกอย่าง ให้เล่นเพลงออริจินอลที่นี่ก็ไม่มีความหมายหรอก


คานาตะ: เอ๋〜... ฉันไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นนะ…


ฮารุกะ: เล่นเพลงออริจินอลในไลฟ์บนถนนแบบนี้จะทำคนเซ็งเปล่าๆ

ให้เล่น copy เพลงดังๆ มา จะเซฟกว่า

อีกอย่าง อะไรที่ไม่จำเป็นในไลฟ์ก็ตัดออกไปซะ

สิ่งสำคัญคือการโชว์เทคนิคให้เห็นต่างหาก

เพลงที่ดังพอตัว และมีใช้เทคนิคพอควร… เพลงนี้แล้วกัน

เฮ้ย เริ่มเล่นได้แล้ว


คานาตะ: อะ รอก่อนๆ…!



คนเดินผ่าน: นี่ แถวสถานีมีคนมุงอะไรอยู่แหละ ทำอะไรกันอยู่นะ?

คนเดินผ่าน: เดี๋ยวนี้มีนักดนตรีมือโปรมาแอบจัดไลฟ์บนถนนเยอะอยู่นะ ลองไปดูมั้ย?


ยามาโตะ: (ไลฟ์บนถนน...)


คานาตะ: ฮะๆ ดีคร้าบ--! ถ้าสนใจมาฟังกันได้น้า--!


ฮารุกะ: (ชิ…! หมอนี่ อย่าพูดระหว่างเล่นอยู่สิวะ…!)

(แถม เสียงเบสตั้งแต่เมื่อกี้มันอะไรกัน…

บอกว่าจะปรับตัวแต่ริธึ่มเหมือนไม่ได้แก้อะไรเลย…)

(ทำไมฉัน… ต้องไปฟอลโลว์เสียงดนตรีของหมอนี่ตลอดเวลาด้วย...!!)


ยามาโตะ: (...มือกีตาร์คนนั้น เก่ง)

(แต่ว่า… ดูทรมานจัง)


คานาตะ: ครับผม! จบแล้วครับ!

ขอบคุณทุกคนที่ฟังจนถึงสุดท้ายนะ!


ฮารุกะ: แก!! การเล่นเมื่อกี้มันอะไร! จงใจอีกแล้วใช่มั้ย--


คนเดินผ่าน: เล่นเก่งมากเลย--! โดยเฉพาะเด็กมือเบส ท่าทางสนุกดีจัง~

ดีดไปท่าทางสนุกไป ทางนี้ก็พลอยเคลิ้มไปกับเพลงด้วยเนอะ

คนเดินผ่าน: มือกีตาร์ ทั้งการแสดงทั้งเสียงร้องก็ท่าทางเก่งหรอก…

แต่ว่า ดูน่าเบื่อจะตาย? แถมยังน่ากลัวด้วย…


ฮารุกะ: …!


ยามาโตะ: (...)


คนเดินผ่าน: นี่! เด็กมือเบสไม่ลองร้องบ้างหรอ?


คานาตะ: เอ๋ ฉันหรอ?


ฮารุกะ: (อะไรเนี่ย… สุดท้ายก็ลงเอยแบบนี้เรอะ…!)

(ไม่ว่าจะแสดงให้เข้าขากันยังไง จุดรวมสายตาก็ไปอยู่ที่คานาตะหมด…)

(ตลอดเวลาเลย… แม้แต่เบสเองแต่เดิมฉันยังโดนหมอนี่…)


คานาตะ: นั่นสิน้า… งั้นแค่เพลงเดียวนะ!

---♪


ฮารุกะ: …!!


(ย้อนความ)

คานาตะ: นี่ จะเล่นเพลงอะไรหรอ? ฉันน่ะนะ อยากให้พี่ร้องเพลงนั้นจัง!

เพลงที่พี่แต่งขึ้นมาในสมัยก่อน! แต่ก่อนเล่นในห้องทุกวันเลยนี่นา!


คนเดินผ่าน: สุดยอด เพลงเพราะจัง.... ออริจินอลใช่มั้ย?

คนเดินผ่าน: ฝีมือดีจัง หรือว่าจะเป็นนักดนตรีมืออาชีพจริงๆ?


ฮารุกะ: (ทำไมแก… กระทั่งเพลงของฉัน…)

(ทำไมตลอดเวลา… ฉันถึงถูกหมอนี่แย่งชิงไปเสมอเลย…

ทั้งที่ตัวฉันแทบไม่เหลืออะไรแล้ว…)

…!


คานาตะ: นี่ๆ! จะไปไหนหรอ? ช่วยเล่นกีตาร์หนุนหน่อยสิ!

แค่ฉันคนเดียว ทำให้ผู้ชมสนุกด้วยไม่ได้นะ!


ยามาโตะ: …


ฮารุกะ: รำคาญ… แกอย่ามา… ชี้สั่งฉัน…


คานาตะ: ฮะๆ ยินดีต้อนรับกลับ--♪

งั้น ฝากฟอลโลว์ให้ด้วยนะ พี่ชาย (โอนี่จัง)


ฮารุกะ: (สุดท้ายเพราะเสียงเบสหมอนี่… ทุกอย่างเลยเละเทะไปหมด…)

(ทั้งเสียงของฉัน และความรู้สึกนี้… จะถูกทำให้เสียสติบ้าคลั่งไปอีกเมื่อไหร่กัน…)


-------------


ตอนที่ 3 - สิ่งที่ไม่จำเป็น



[ หน้าสถานี ]


คนเดินผ่าน: เอ๋! จบแค่เพลงเดียวหรอ?


คานาตะ: ขอโทษน้า! พวกเราไม่ค่อยมีเพลงมากเท่าไหร่น่ะ!

อะ จริงด้วย! เดี๋ยวจะมีไลฟ์ใหญ่จัดที่โตเกียวในฐานะวงอยู่นะ

ไว้มาเล่นกันที่นั่นแทนแล้วกันเนอะ!


คนเดินผ่าน: ไปๆ! เดี๋ยวฉันชวนเพื่อนไปด้วยนะ!


คานาตะ: ขอบใจนะ!

เราเล่นวงกันแต่ที่เกียวโต ที่นี่เลยโนเนมมากๆ เลยน่ะน้า


ฮารุกะ:


คานาตะ: เอ๊ะ? อ๊ะ พี่!? เดี๋ยวก่อนสิ!

ฉันยังไม่ทันปิดแอมป์พวกนี้เลยน้า...!!


...


(ย้อนความ)

ครูสอนเปียโน: ฮารุกะคุง! น้องชายคานาตะคุงเค้าเล่นเพลง Arabesque ได้เพอร์เฟ็คมากเลยนะ

ตอนงานแสดงเปียโนครั้งหน้า ขึ้นแสดงด้วยกันมั้ย?


ครูสมัยม.ต้น: นิโจ น้องชายของเธอติดท็อปการสอบซ้อมทั่วประเทศนะ

เป็นพี่ชายก็แพ้ไม่ได้ล่ะ พยายามเข้า


พนักงานร้านดนตรี: ไง ฮารุกะ คานาตะเริ่มเล่นเบสแล้วแน่ะ

หมอนั่นเป็นแค่มือใหม่แต่เล่นเอาเรื่องใช้ได้เลยนะ


สมาชิกวง: ฮารุกะ… ช่วยดีกับทุกคนกว่านี้หน่อยได้ไหม?

น้องของนาย เดี๋ยวนี้เข้ามาในวงของเราแล้วสนิทกับพวกนั้นน่ะ....

แถมหมอนั่นเริ่มเล่นเบสแล้วด้วย ขืนปล่อยไว้แบบนี้… นายคง…



[ สวนสาธารณะ ]


ฮารุกะ: (... ตลอดมา คนที่ไม่มีความจำเป็นต่อไปก็คือฉัน)

(ก็แหงสิ มีคนที่หน้าเหมือนกับฉัน มีทั้งนิสัยที่เข้ากับคนอื่น และยังเล่นดนตรีได้ดีกว่าฉัน ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก)

(ถ้ามีใครจะว่าอะไร… ทุกอย่างจะมาลงที่ฉัน)


คานาตะ: พี่ รอเดี๋ยวสิ!!


ฮารุกะ: … อย่าตามมา หมดธุระแล้วไม่ใช่เรอะ


คานาตะ: นี่ ทำไมถึงโกรธขนาดนั้นล่ะ?

เมื่อกี้ออกจะสนุกจะตาย! คนดูก็ดีใจกันขนาดนั้นเลยนะ!


ฮารุกะ: ฉัน… ไม่สนุกด้วย… เลยสักนิด…


คานาตะ: แบบนั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีด้วยสิ…

อะ! ใช่แล้ว มีเรื่องดีๆ มาบอกล่ะ!

คนที่มาฟังในไลฟ์หน้าสถานีเมื่อกี้ ถูกใจเพลงของพี่เยอะแยะเลยนะ!

มีถามมาด้วยแหละว่าจะไม่ขายCDหรอ? น่ะ!


ฮารุกะ:


คานาตะ: ขายเป็นเพลงอินดี้กันดีมั้ย! แล้วมาเล่นไลฟ์ด้วยกันสองคนอีกรอบ!

อะ พอออกไลฟ์แล้วพี่ก็ทำเพลงใหม่เลยเป็นไง?


ฮารุกะ: แกจะมอง… ทำเหมือนฉันเป็นคนโง่ไปอีกเมื่อไหร่ถึงจะพอใจ…

อะไรคือ “เพลงของพี่” … ห๊า?

มาทำหน้าเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของเพลง แล้วยังจะกล้าพูดใส่ฉันอย่างนี้อีก!

เสียสติไปแล้วรึไง ...!!


คานาตะ: พี่…

อา… ดีจังเลย สีหน้าแบบนั้น


ฮารุกะ: หา…?


คานาตะ: อืม อย่างที่พี่พูดเลย

ฉันอาจจะเสียสติไปแล้วก็ได้ ก็ฉันดีใจถึงขนาดนี้

มีแต่พี่เท่านั้นนะ ที่มองฉันด้วยสีหน้าที่เกลียดชัง โกรธ และหวาดกลัวมาให้

แตกต่างสิ้นเชิง กับพวกที่ฉันใจดีป้อยอนิดหน่อย ก็มาเข้าใกล้ฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มชั้นต่ำน่ะ


ฮารุกะ: นาย…พูดอะไร...?


คานาตะ: อ้า แต่ว่า ท่ามกลางพวกพรรค์นั้นยังมีอย่างนึงที่มีประโยชน์นะ

เมื่อกี้พี่พูดเองใช่มั้ย? อะไรที่ไม่จำเป็นในไลฟ์ก็ตัดออกไปซะ

สิ่งสำคัญคือการโชว์เทคนิคให้เห็น น่ะ

แต่ว่านะ… เจ้าพวกนั้นสนุกกันน่าดูเลยนี่?

ไม่ทันรู้ตัวเลยว่าฉันเล่นโน้ตหลุดไป และสนุกร่าเริงตลอดเวลา

อีกแล้ว เนอะ


ฮารุกะ: อะ…ไร...?


คานาตะ: สิ่งที่ไม่จำเป็น ก็คือพี่ต่างหาก


-------------


ตอนที่ 4 - ความคิดคำนึงถึงพี่



[ สวนสาธารณะ ]














คานาตะ: อีกแล้ว เนอะ

สิ่งที่ไม่จำเป็น ก็คือพี่ต่างหาก


ฮารุกะ: ฮะ…


คานาตะ: ทำไมกันละเนอะ?

ฉันน่ะนะ ตั้งแต่ตอนเด็กก็รู้สึกประหลาดมาตลอดเลย

ทั้งเปียโน การเรียน แม้แต่เบส

ทั้งหมดพี่เป็นเลิศทุกอย่าง

แต่ว่า ฉันกลับก้าวข้ามพี่ไปได้ตลอดเลยเนอะ

นี่ ทำไมล่ะ?


ฮารุกะ: นั่นเพราะ… แก…!!


คานาตะ: อ๊ะ จริงด้วย มีอีกอย่าง

ตอนที่พี่เคยอยู่วงดนตรีวงก่อนหน้านี้ก็ใช่หรือเปล่า


ฮารุกะ: …!!


คานาตะ: พี่ ออกจะให้ความสำคัญมากเลยนี่

ดนตรีที่เล่นกับพวกนั้น และอนาคตของวง

หรืออย่างที่ความจริงแล้ว อยากจะเดบิวต์พร้อมกันกับพวกนั้น


ฮารุกะ: ม ไม่ใช่…!


คานาตะ: เอ๋-? ไม่ใช่หรอ? พี่ออกจะทุ่มเทมากเลยนี่!

ทุกคืนๆ เล่นเบสยันดึกดื่น แถมเพลงก็เขียนเอง...

แต่ ท้ายสุดก็อยู่ตัวคนเดียวซะงั้น เนอะ


ฮารุกะ:















คานาตะ: พี่ไหวหรือเปล่า? สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ?


ฮารุกะ: แกอย่า… อย่ามาเข้าใกล้… ฉัน!!


คานาตะ: เอ้า โธ่ ก็ชอบทำตัวแบบนั้นนี่

เพราะงี้ เดี๋ยวรอบข้างไม่อยากจะอยู่ด้วยอีกรอบหรอก

ใน εpsilonΦ ชูคุงก็บอกมาเหมือนกันนี่


ชู: ฮารุกะในตอนนี้ทำหน้าที่มือกีตาร์ไม่ได้เลยสักนิด

ไม่อยู่เสียจะดีกว่า


ฮารุกะ: …!


คานาตะ: เอาเถอะ ไม่มีวงดนตรีที่อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตอยู่แล้วนี่

ถ้าสักวันจะอยู่ตัวคนเดียว รีบๆ แยกตัวมาจะดีกว่าล่ะมั้ง


ฮารุกะ: ฮะ... อา...


คานาตะ: นี่ ถามจริงๆ นะ ไหวหรือเปล่า? ให้ฉันอุ้มมั้ย?

สมัยเด็ก ตอนฉันร่างกายอ่อนแอ พี่ก็คอยอุ้มให้ฉันเสมอเลยนี่นา


ฮารุกะ: ก็บอกว่า… อย่ามาเข้าใกล้ฉัน!!!!

ถ้าต้องให้มาเกาะแก… ฉัน… ไม่ต้องมีใครมาเข้าใจฉันก็ได้….!!

อยู่ตัวคนเดียว… เสียยังจะดีกว่า!!


คานาตะ: อ๋า… โดนเกลียดอีกแล้วรึเปล่าน้า

(แต่ว่า เป็นความจริงนี่)

(ความสัมพันธ์ที่คงอยู่ไปตลอดกาล ไม่มีที่ไหนบนโลกทั้งนั้น

คนที่สามารถพูดความจริงนั้นได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คือฉันเท่านั้นนี่)

(ใช่ มีแค่ฉันเท่านั้น

ต่อให้ฮารุกะเหลืออยู่ตัวคนเดียว คนที่จะบรรเลงดนตรีร่วมกับพี่ได้ก็มีแต่ฉันเท่านั้น)

(ส่วนวิธีการ จะกีตาร์ เบส วงดนตรี จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น

ขอแค่ฉันสามารถร่วมทางกับดนตรีของฮารุกะไปจนถึงวาระสุดท้าย---)


คานาตะ: พี่ช่าง โดดเดี่ยวและน่าสงสารเสียเหลือเกิน

แต่ว่า มีแต่ฉันคนเดียว ที่สามารถฟังเสียงของนายจนถึงท้ายสุดได้


-------------


ตอนที่ 5 - ความกังวล



[ แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ ]


ชู: ไลฟ์หน้าสถานี เป็นยังไงบ้างล่ะ?


ฮารุกะ:


ชู: สีหน้านั่นอะไรน่ะ เป็นไปได้ด้วยดีจนเลือดขึ้นหน้าเลยรึเปล่านะ?


ฮารุกะ: ถอยไป…!


ชู: ฮะๆ! ฮารุกะเข้าใจง่ายจริงๆ

ผมจะลองเรียนรู้จากความซื่อตรงนั่นดีมั้ยนะ


เรย์จิ: ฮารุกะ กลับมาคนเดียวสินะครับ

แสดงว่าไลฟ์หน้าสถานีกับคานาตะล้มเหลวจริงๆ…


ชู: ไม่เลย สำเร็จสุดๆ เป็นอย่างที่ผมคิด


เรย์จิ: ทำไมถึงคิดแบบนั้นครับ?


ชู: ฮารุกะกับคานาตะ ยิ่งปะทะซึ่งๆ หน้า จะยิ่งแสดงดนตรีที่ดีออกมาได้


เรย์จิ: แต่ว่า จากท่าทีของฮารุกะเมื่อครู่ ไม่ใช่ว่าแม้แสดงไลฟ์หน้าสถานีกับคานาตะไปแล้ว ก็ไม่สามารถเกิดดนตรีอันเป็นหนึ่งเดียวหรือครับ

ถ้าดำเนินแบบนี้ต่อไปจนถึงวันแสดงจริง… ผมก็มีความกังวลอยู่เล็กน้อยครับ


ชู: เฮ้อ… เรย์จิไม่เข้าใจอะไรเลยนะ

นายมองดูทุกคนจากข้างหลังระหว่างแสดงไลฟ์แล้วยังจะมองไม่เห็นอีก

เอาเถอะ พอถึงวันจริงเดี๋ยวก็เข้าใจเอง

เป็นห่วงมากเข้า ระวังกล้ามเนื้อบนหน้าจะปูดเอายิ่งกว่าเดิมนะ เลิกเถอะ


เรย์จิ: ...เข้าใจแล้วครับ


ชู: เฮอะ! นายเองก็เป็นชายที่ซื่อตรงดีนี่

ช่างเถอะ เดี๋ยวจากนี้ผมจะออกไปข้างนอกสักหน่อย


เรย์จิ: หา? เดี๋ยว… รอก่อนครับ! กระเป๋าเดินทางนั่น...!?


ชู: ผมจะไปเที่ยวเล่นสักหน่อย

จะไม่อยู่สักพัก เข้าใจตามนั้นนะ


เรย์จิ: ไปเที่ยว… หรือว่าท่องเที่ยวโตเกียวอีกครั้ง…?
หรืออาจจะ… โดนท่านประธานพูดอะไรมาอีก…


ชู: ไม่ใช่สักหน่อย

มีธุระนิดหน่อย ผมจะกลับมาก่อนเริ่มแสดงไลฟ์

ไปล่ะ ฝากที่เหลือด้วย



[ หลายวันผ่านไป--- ]


(โทรศัพท์ที่โทรไม่ติด)


เรย์จิ:


ทาดาโอมิ: เรย์จิคุง… ติดต่อชูคุงได้หรือยัง?


เรย์จิ: ไม่เลย… ทางนั้นเป็นไงบ้าง? มีเมลล์เข้ามาหรือเปล่า?


ทาดาโอมิ: ไม่... ไม่มีเลย…


เรย์จิ: งั้นหรอ


ทาดาโอมิ: ไลฟ์เดี่ยว… สุดสัปดาห์นี้แล้วนะ

ตอนซ้อมเพลงใหม่พร้อมหน้ากันก็แค่ครั้งเดียวเมื่อตอนนั้น…


เรย์จิ: จริง…


ทาดาโอมิ: ก่อนชูคุงจะกลับมา ถ้าพวกเราซ้อมประสานเสียงก่อนก็อาจจะดีแต่ก็…


เรย์จิ: สภาพฮารุกะกับคานาตะแบบนั้นไม่ไหวหรอก… ทั้งสองคน หลังจากกลับจากไลฟ์หน้าสถานี ก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง ฉันก็ไม่ได้พูดเป็นเรื่องเป็นราวได้เลย


ทาดาโอมิ: แบบนั้น…


เรย์จิ: ...

(ถ้าไลฟ์เดี่ยวล้มเหลวขึ้นมา… ชูต้องถูกพาตัวกลับไปที่เกียวโต

แต่ว่า ชูที่สูญหายอยู่แบบนี้ ไม่ว่าจะทางไหนก็มีแต่ล้มเหลวทั้งนั้น)

(อย่างน้อย… อย่างน้อยฉันต้องปกป้องสิทธิในการออกแสดงงาน LR Fes... !)


เรย์จิ: เรื่องกลายเป็นแบบนี้… ก็ช่วยไม่ได้....


ทาดาโอมิ:  เรย์จิคุง…?


เรย์จิ: (โทรศัพท์) สวัสดีครับ ผมคาราสุมะครับ

ผมมาคุยในเรื่องนั้น… ไม่ครับ ไม่ใช่เรื่องนั้น…

ผมขอยกเลิก... ไลฟ์แสดงของ εpsilonΦ ครับ



(จบบทที่ 2)