Event Story - εpsilonΦ & Fantôme Iris: in the rain AAside official website: https://aaside.bushimo.jp
บทแปลทั้งหมดเป็นการแปลส่วนตัวเท่านั้นค่ะ
เราเลือกแปลภาษาถิ่นของตัวละครเป็นภาษากลางทั้งหมดนะคะ
------
Event Story
εpsilonΦ & Fantôme Iris: in the rain
ประเด็นที่น่าสนใจ: ตัวตนและอดีตของเรย์จิ, Interact เรย์จิ กับ จุน
Prologue - in the rain
[ แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ ]
เรย์จิ: ออกไปข้างนอกก่อนล่ะ
ทาดาโอมิ: ตอนนี้หรอ? ฝนตั้งท่าว่าจะตกนี่นา…
เรย์จิ: ฉันมีประชุมหลังจากนี้น่ะ
ทาดาโอมิ: งั้นหรอ… ถ้าฝนตกไม่หนักมากก็คงดีเนอะ
เรย์จิคุง ดูจะไม่ค่อยชอบฝนนี่
เรย์จิ: … ฉันแค่ไม่สะดวกใจกับความชื้นที่ติดตัวเฉยๆ
ไม่ได้ไม่ชอบอะไรหรอก
ถ้าเดินออกไป ฝนจะก็เปื้อนแขนเสื้อด้วย
ไม่น่ามีมนุษย์คนไหนที่ชอบสักเท่าไหร่หรือเปล่า
ทาดาโอมิ: อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้เนอะ
เรย์จิ: … ถึงเวลาแล้ว เดี๋ยวกลับมา
(ตัดฉาก)
[ บนถนน ]
(เสียงน้ำกระฉอก)
เรย์จิ: ชิ… น้ำเข้าในไปรองเท้าแล้ว
(ฉันควรจะเรียกแท็กซี่กลับ ก่อนฝนจะตกหนักแบบนี้สินะ)
(เสียงเดินลุยน้ำ)
เรย์จิ: หืม?
จุน: แฮ่ก… แฮ่ก…
เรย์จิ: (นั่น สุซากิ จุน จาก Fantôme Iris… วิ่งโดยไม่พกร่มงั้นหรอ)
(ไม่น่าเชื่อ ช่วงบ่ายจะมีอัตราฝนตกอยู่ที่ 90% ไม่ได้ตรวจสอบพยากรณ์ก่อนออกมาข้างนอกงั้นหรอ?)
จุน: หวา!!
(เสียงน้ำกระเด็น)
จุน: จ เจ็บๆ… มาหกล้มเพราะกระป๋องในที่แบบนี้มัน…. โชคร้าย....
เรย์จิ: .... ไม่น่าเชื่อจริงๆ ล่ะนะ
จุน: เอ๊ะ?
อ้าว... นายคือ…
เรย์จิ: มือกลอง εpsilonΦ คาราสึมะครับ
อาจจะช่วยได้ไม่มาก แต่ได้โปรดใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ด้วยนะครับ
จุน: … เอ๊ะ?
(ตัดฉาก)
เรย์จิ: แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวไม่พอสินะครับ
จุน: อื้อ ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ
เรย์จิ: มีแผลตรงไหนหรือเปล่าครับ? เห็นคุณหกล้มค่อนข้างแรงทีเดียว
จุน: ไม่เป็นไรเลย… เป็นโชคร้ายของฉันประจำน่ะ
เรย์จิ: … อย่างนั้นหรือครับ
เรย์จิ: เห็นคุณไม่พกร่มออกมา ลืมพกงั้นหรอครับ?
จุน: คือว่า… ฉันวางร่มในที่เก็บร่มของร้าน พอซื้อของเสร็จออกมา
เหมือนจะมีใครเข้าใจผิดแล้วหยิบมันออกไป
คิดว่าช่วยไม่ได้ก็เลยตั้งใจซื้อร่มใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อ
แต่ของก็ดันหมดซะก่อน…
แล้วฉันก็เห็นป้ายร้านสะดวกซื้อที่ฝั่งนู้น เลยรีบวิ่งไป--
เรย์จิ: และสะดุดล้มกับกระป๋องเปล่า อย่างนี้สินะครับ
จุน: อะ อืม…
เรย์จิ: หาซื้อร่มด้วยสภาพเช่นนี้ จนน้ำฝนเปียกเลอะเสื้อได้ขนาดนั้น
กลายเป็นว่าถ้าใช้ขนส่งสาธารณะจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือเปล่านะครับ?
รู้สึกว่าแชร์เฮาส์ของแฟนธ่อมจะอยู่ที่อิเคะบุกุโระ
หรือว่า คุณตั้งใจจะเดินกลับจากที่นี่หรือครับ?
จุน: จ-จะให้เดินจากตรงนี้ก็ลำบากเกินไปเนอะ… ไกลเกินด้วย… อะฮะๆ…
เรย์จิ: เฮ้อ…
เรย์จิ: (...ชักปวดหัวขึ้นมาแล้วสิ)
-------------
ตอนที่ 1 - in the rain
[ บนถนน ]
เรย์จิ: (รูปลักษณ์ที่เห็นบนเวทีเป็นคนละคน แต่ว่า
นี่คือธาตุแท้ของชายคนนี้จริงๆ หรือว่าจะเป็น---)
(... ลองขุดคุ้ยดูดีกว่า)
จุน: ค-คือว่า… ทำไมถึงจ้องหน้ากันขนาดนั้นน้า~… แบบว่า คิดในใจ....
เรย์จิ: ขอโทษที่เสียมารยาทครับ
ผมคิดว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับคุณสุซากิสักเล็กน้อยอยู่พอดี
จุน: เอ๋.... ทำไมถึงเป็นฉันล่ะ…?
เรย์จิ: คุณสุซากิ รับหน้าที่ประพันธ์เพลงให้กับ Fantôme Iris สินะครับ
คุณเป็นคนที่สร้างบทเพลงที่แสดงภาพลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวเช่นนั้นออกมาได้อย่างงดงาม
ในฐานะเป็นผู้ที่ร่วมงานเฟสด้วยกัน ย่อมรู้สึกสนใจอยู่แล้วครับ
หากคุณไม่ติดอะไร ขอเวลาคุยด้วยกันสักเล็กน้อยจะได้หรือเปล่าครับ?
[ แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ ]
จุน: ไหงกลายเป็นงี้ไปได้…
ห้องหรูหราเกินไม่เห็นจะเข้าใจเลย
เฟอร์นิเจอร์ก็ดูแพงไปหมดจนไม่กล้าจับอะไรเลย… ฮือ…
เรย์จิ: คุณสุซากิ ผ้าเช็ดตัวครับ
จุน: อะ ขอบใจนะ
เรย์จิ: ถ้าคุณสะดวก จะยืมเสื้อผมก็ได้นะครับ…
จุน: เอ๊ะ!? ไม่ๆๆๆๆ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยนะ!
เรย์จิ: ถ้าอย่างนั้น เพื่อไม่ให้เป็นหวัดขึ้นมา
ผมจะไปรินเครื่องดื่มอุ่นๆ มาให้นะครับ
หากมีที่ต้องการนอกเหนือจากนี้…
จุน: ...อยากกลับแล้วคับ
เรย์จิ: คุณรอจนกว่าฝนจะซาน่าจะดีกว่าหรือเปล่าครับ?
จะให้ร่างกายป่วยไข้ในช่วงก่อนเริ่มงานเฟสที่สำคัญไม่ได้นี่ครับ
จุน: น-นั่นสินะครับ!
เรย์จิ: เช่นนั้น รอสักครู่นะครับ
จุน: ว้าาาาาก…. คนญี่ปุ่นที่ปฏิเสธไม่เป็น~!! ฉันนี่มันโง่ๆๆๆ
เรย์จิ: … เป็นคนที่ไหลไปตามน้ำง่ายสินะ
จุน: คือว่า คาราสึมะคุง
ตอนนี้มันเงียบมากเลย สมาชิกคนอื่นไม่อยู่ด้วยหรอ…?
เรย์จิ: ครับ ทุกคนออกไปข้างนอกอยู่ครับ
จุน: งี้เอง
เรย์จิ: (ทั้งที่มีอายุมากแล้วแต่ร้อนรนอยู่ไม่สุขเลยนะ)
(ตามที่ค้นคว้ามา เขาดำรงชีพด้วยเงินรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขันเกมและอื่นๆ โดยที่ไม่ต้องทำงานอะไร)
(นั่นคือสามารถสันนิฐานได้ว่า ไม่ถนัดเวลาอยู่กับผู้คน…
หรือไม่ก็ เป็นบุคคลที่ไม่อาจปรับตัวใช้ชีวิตในสังคมได้)
(โดยสรุปคือ ธาตุแท้ของชายคนนี้ “เป็นอย่างที่ตาเห็น” งั้นรึ...)
(อาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขุดคุ้ยก็ได้)
เรย์จิ: เวลาคุณสุซากิขึ้นแสดงบนเวทีในฐานะ ZACK
ดูมีอิมเมจที่ค่อนข้างต่างจากปกติดีนะครับ
จุน: อ๊ะ อื้ม
ZACK น่ะคือตัวฉัน แต่ก็ไม่ใช่ฉันเลย....
เรย์จิ: หรือก็คือ ZACK คือบทบาทที่คุณแสดงให้เข้ากับโลกของ Fantôme Iris
จุน: อืมม… น่าจะต่างจากการแสดง นิดหน่อยหรือเปล่านะ…
จุน: พอฉันยืนบนเวทีแล้วจะได้รับการปลดปล่อยน่ะ
… ถึงพอพูดแล้วจะเหมือนพวกคนไม่รู้จักโตก็เถอะ
แต่ว่า ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ…
เรย์จิ: … อย่างนี้นี่เอง
-------------
ตอนที่ 2 - in the rain
[ แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ ]
เรย์จิ: (---คำพูดจาและอาการที่ไม่สู้คน กับท่าทีดูพิรุธน่าสงสัย
ลวดลายอวดดีหยิ่งสโย กับกีตาร์ทรงพลังที่จู่โจม)
(ทั้งที่แตกต่างกันอย่างมาก แต่ไม่ได้แสดงอยู่ งั้นหรอ…)
(... ไม่เข้าใจเหตุและผลเลยสักนิด)
เรย์จิ: ขอผมถามคำถามได้มั้ยครับ?
จุน: อือ อืม?
เรย์จิ: คุณเริ่มเล่นดนตรีเมื่อไหร่?
จุน: …. ตั้งแต่จำความได้เลย
ทั้งพ่อแม่ทั้งพี่สาว ต่างเป็นคนในวงการดนตรีอยู่แล้ว
ฉันเลยอยากจะเป็นแบบเขาด้วย… แต่ทำยังไงก็ไม่ได้เรื่อง…
ล้มเลิกงานบริษัท และห่างหายจากดนตรีจนแทบลืมไปแล้ว
จนกระทั่ง โทโมรุทักฉันมา
เรย์จิ: เลยเข้า Fantôme Iris ด้วยเหตุนั้น?
จุน: อื้ม แม้แต่ตอนนี้ บางครั้งฉันยังนึกว่าฝันไปอยู่เลย
ว่าอาจจะแค่กำลังฝันถึงเรื่องที่แสนสุขอยู่ก็ได้ น่ะ…
เรย์จิ: …….
จุน: อ๊ะ…. เวลาป่านนี้แล้ว
ขอตัวกลับก่อนนะ ส่วน… เรื่องผ้าเช็ดตัวหรืออะไรๆ ขอบใจนะ
เรย์จิ: ครับ รักษาตัวด้วย
(เสียงปิดประตู)
เรย์จิ: (---สุซากิ จุน)
(มีพรสรรค์ แต่เคยล้มเลิกการใช้ชีวิตในวงการดนตรีไปแล้วครั้งหนึ่ง)
(“อาจจะแค่กำลังฝันถึงเรื่องที่แสนสุขอยู่ก็ได้” เรอะ)
(ตัดฉากดำ)
??? (สำเนียงเกียวโต): นี่เป็นความฝัน เป็นฝันที่ดีมากเลยล่ะ
แต่ว่า เพราะเป็นฝันถึงมีวันที่ต้องตื่น คุณพ่อเองก็พูดไว้แบบนี้นี่?
เรย์จิ: ….อึก
(ทำไม ฉันถึงนึกถึงคำพูดของคนนั้นล่ะ…?)
(เสียงเปิดประตู)
เรย์จิ: !!
(... มีใครกลับมาแล้วงั้นเรอะ)
ทาดาโอมิ: กลับมาแล้ว เรย์จิคุง
เรย์จิ: … อา
ทาดาโอมิ: ….? หรือว่า มีแขกมาหาหรอ?
เรย์จิ: รู้ดีเลยนี่ สุซากิ จุน จาก Fantôme Iris มาน่ะ
ทาดาโอมิ: แบบนี้เอง… แปลกจังเลยนะ
คุณสุซากิ ไม่น่าเป็นคนที่จะมาเยี่ยมด้วยตัวเองด้วย
เรย์จิคุงเป็นคนชวนมาหรือเปล่านะ
มีเรื่องอยากคุยกับเขาหรอ?
เรย์จิ: ไหลไปตามน้ำน่ะ
ฉันตั้งใจว่าจะขุดคุ้ยเรื่องภายในอะไรเพื่อการจัดการในอนาคต...
ทาดาโอมิ: คุณสุซากิ เป็นคนแบบไหนหรอ?
เรย์จิ: นั่นสินะ...
(เสียงจากคอม)
เรย์จิ: มาถึงแล้วเรอะ
ทาดาโอมิ: อะไรหรอ?
เรย์จิ: รายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวสุซากิ จุน
ฉันให้รวบรวมข้อมูลมาให้เร็วที่สุดในขอบเขตที่พอเข้าใจได้น่ะ
เรย์จิ: …..
เรย์จิ: เขาเกิดมาในบ้านที่เป็นนักดนตรีทั้งหมด พี่สาวดูเหมือนจะเป็นนักเปียโนมีชื่อเสียง
ทาดาโอมิ: หืม… พรสรรค์ของคุณสุซากิมีมาตั้งแต่เกิดเลยเนอะ
เรย์จิ: พรสรรค์งั้นเรอะ ทาดาโอมิก็สัมผัสได้สินะ
ทาดาโอมิ: แต่มักจะถูกเอกลักษณ์โดดเด่นของ Fantôme Iris บดบังอยู่เรื่อยก็เถอะนะ
…. คุณสุซากิ ไม่ได้มีเป้าหมายเป็นนักเปียโนเหมือนกับคุณพี่สาวนี่นา
-------------
ตอนที่ 3 - in the rain
[ แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ ]
ทาดาโอมิ: …. คุณสุซากิ ไม่ได้มีเป้าหมายเป็นนักเปียโนเหมือนกับคุณพี่สาวนี่นา
เรย์จิ: แม้เขาจะเข้าร่วมการประกวดเป็นจำนวนมาก
แต่ไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นสักเท่าไหร่
ทาดาโอมิ: หืม… ประหลาดจังเลยเนอะ
เรย์จิ: ดูเหมือนจะไม่ถูกกับวันแสดงจริงน่ะ
และยังประพบปัญหานานับหลายครั้งหลายคราวด้วย
แต่ว่า มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องที่เขาเป็นมนุษย์ที่ได้รับการเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พร้อม
ทาดาโอมิ: …..
เรย์จิ: เริ่มเล่นกีตาร์ตั้งแต่ม.ต้นปี 3
และไม่ได้เข้าร่วมงานประกวดเปียโนนับตั้งแต่นั้น
หลังจากนั้น ก็เลือกเส้นทางที่ห่างจากสายแวดวงดนตรี
เรย์จิ: หลังจบการศึกษามหาวิทยาลัย ถึงกลับมาในวงการดนตรีอีกครั้งในฝั่งบริหารธุรกิจ
แต่ก็ออกจากงานในระยะเวลาเพียง 1 ปี
ภายหลัง จึงหมกตัวอยู่ในบ้าน กลายเป็นหมกมุ่นเรื่องเกมขึ้นมา
เรย์จิ: แต่พอได้รับคำเชิญชวนจากคุโรคาว่า โทโมรุ ผู้เป็นเพื่อน
จึงได้มาเป็นสมาชิก Fantôme Iris ....
เรย์จิ: หนีอยู่ หรือถูกไหลไปตามกระแส อย่างใดอย่างหนึ่งสินะ
เรย์จิ: มีทั้งพรสรรค์และสภาพแวดล้อมที่เพียบพร้อม
ทั้งที่มีทั้งสองอย่างอยู่กับตัว… เรื่องน่าขันสิ้นดี
ทาดาโอมิ: …..
ทาดาโอมิ: .... เรย์จิคุง “อิจฉา” ในตัวคุณสุซากิ เลยให้อภัยไม่ได้หรือเปล่านะ
เรย์จิ: หา? ฉันเนี่ยนะ คิดอย่างนั้น?
ทาดาโอมิ: ก็ มีญาติสนิทใกล้ตัวเรย์จิคุงอยู่นี่นา
คนที่มีทั้งพรสรรค์ติดตัวแต่กำเนิด ล้อมรอบด้วยสภาพแวดล้อมที่เพียบพร้อม---
แต่แล้วก็สูญเสียทุกสิ่ง เส้นทางด้านดนตรีของคนนั้นได้ปิดตายลงน่ะ
เรย์จิ: ...อึก
ทาดาโอมิ: อ๋า นั่นสิ ไม่ได้ถูกปิดตายสักหน่อยเนอะ
“คนคนนั้น” เลือกยอมแพ้ และปล่อยทิ้งด้วยตัวเองนี่นา
แต่ว่า สิ่งนั้นก็เป็น “การหนี” สำหรับตัวเรย์จิคุง---
เรย์จิ: อย่าพูดเหมือนรู้ดีหน่อยเลย!!
ทาดาโอมิ: ….
ทาดาโอมิ: อย่างที่เรย์จิคุงพูดเลยเนอะ ขอโทษนะ
เรย์จิ: ไม่…
… ฉันไม่ได้คิดอะไรกับตัวสุซากิ จุน
เพียงแต่ ทำความเข้าใจไม่ได้เท่านั้น
(เสียงปิดประตู)
ทาดาโอมิ: ไม่ได้คิดอะไร งั้นหรอ…
ทำไมมนุษย์ถึงโกหกกระทั่งตัวเองด้วยนะ
[ แชร์เฮาส์วง Fantôme Iris ]
จุน: กลับมาแหล่ว…
โทโมรุ: มาแล้วหรอ จุน บอกจะออกไปข้างนอกแปบเดียว
แต่กลับมาช้าอยู่นะ… หืม?
โทโมรุ: ทำไมผมยุ่งเหยิงขนาดนั้นล่ะ?
ไหนจะเสื้ออีก เปื้อนโคลนมางั้นสิ หกล้มที่ไหนอีกแล้วหรอ?
จุน: โคลน? … อ๊ะ จริงด้วย
จุน: เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ…
ฉันไปรบกวนบ้านเขาทั้งสภาพอย่างนี้หรอ?
แถมยังไปนั่งบนโซฟาแพงๆ ด้วย!?
โทโมรุ: แพงๆ? รบกวน?
จุน: คือว่านะ เมื่อกี้---
-------------
ตอนที่ 4 - in the rain
[ แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ ]
โทโมรุ: เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นด้วย…
คนราวสามสิบ เหยียบกระป๋องเปล่าสะดุดล้มน้ำกระเด็น---
จุน: อย่าพูดต่อเลย! ฉันยังรู้ตัวเลยว่าตัวเองน่าสมเพชมากๆ น่ะ!
โทโมรุ: เอาเถอะ สมเป็นจุนดีนะ
ทั้งเรื่องที่ไปแชร์เฮาส์ฝั่งนั้น รวมถึงปฏิเสธคำชวนว่ามีเรื่องอยากคุยด้วยไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ?
จุน: …. อืม
โทโมรุ: เพียงแต่ อีกฝั่งเป็นเด็กจาก εpsilonΦ นี่แหละ…
คุณเฟลิก็ติดใจอยู่ด้วยล่ะ
จุน: คุณเฟลิกซ์น่ะหรอ?
โทโมรุ: ผมไม่ได้ถามถึงรายละเอียดหรอก...
โทโมรุ: .... ในสายตาจุน คาราสึมะคุงเขาเป็นเด็กแบบไหนล่ะ?
จุน: พูดคุยอย่างสุภาพกับคนอย่างฉันล่ะ ใจดีกับฉันด้วย
แต่ว่า บางทีฉันก็รู้สึกเหมือนเขามองฉันเหมือนมองขนมปังเน่าๆ ด้วย….
คิดไปเองหรือเปล่านะ…. อะฮะฮะ
รู้สึกรอยยิ้มที่ยิ้มอยู่ ก็ไม่ได้ยิ้มจริงๆ
ดวงตาก็… ทั้งเย็นชา ทั้งน่ากลัว อยู่นิดหน่อย
ฉันอาจจะซ้อนทับกับพี่สาวอยู่ก็ได้… อะไรอย่างนี้…
โทโมรุ: งั้นหรอ…
จุน: สมเพชจริง ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วแท้ๆ
โทโมรุ: อืม ฉันไม่ปฏิเสธหรอก
จุน: นั่นสินะ… ยังไงซะตัวฉันมัน…
โทโมรุ: แต่ว่า ไม่ว่าใครก็มีคนประเภทที่คุยยากอยู่แล้วน่า
มันก็แค่นั้นไม่ใช่หรอ?
จุน: ...อืม
[ บนถนน ฝนตก ]
จุน: แฮ่ก...แฮ่ก…
ม-ไม่เห็นรู้เรื่องเลย...
ฝนมาตกได้ยังไงกัน!? เมื่อกี้ฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลย!
จุน: แฮ่ก แฮ่ก… ฮือ โชคร้ายชะมัด…. เอ๊ะ หวา!?
(เสียงล้ม)
จุน: เจ็บๆๆ… ทำไมมีขวดพลาสติกอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ….
เดี๋ยวนะ สถานการณ์แบบนี้มันคุ้นสุดๆ ไปเลยนี่นา---
(เสียงคนเดิน)
จุน: ...อึก
เรย์จิ: ไม่หัดเรียนรู้เอาซะเลยนะครับ
จุน: คะ คาราสึมะคุง
เรย์จิ: …….
เรย์จิ: ผมทำความเข้าใจตัวคุณไม่ได้เลย
จุน: เอ๊ะ?
เรย์จิ: ทั้งที่คุณเกิดมาพร้อมพรสรรค์ พร้อมทั้งผู้คนรายล้อมที่สมบูรณ์
แล้วทำไมถึงยังเลือกปล่อยทุกสิ่งราวกับหนีไปด้วย?
ทั้งที่ทำตัวอย่างนั้น แต่แล้วยังจับพลัดจับพลูตามกระแส
จนกลับมาเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตัวเองเคยทิ้งไปแล้วเนี่ยนะ?
จุน: ฉะ ฉัน….
เรย์จิ: ช่างโชคร้าย นั่นเป็นคำพูดติดปากของคุณสินะครับ
เรย์จิ: อย่ามาทำตัวเหลาะแหละไม่เข้าเรื่องอย่างนี้จะได้มั้ยครับ
คุณน่ะช่างโชคดีเหลือคณานัก
เรย์จิ: ทั้งอย่างนั้น คุณกลับไม่เข้าใจสักนิดเดียว
ว่าตัวเองเกิดมาในสถานที่เพียบพร้อมมากเพียงใด
จุน: ….อึก …. ขอโทษ
เรย์จิ: ทำไมต้องขอโทษด้วยครับ?
ผมตั้งใจทำร้ายคุณอยู่ครับ และไม่คิดจะรับการขออภัยทั้งนั้นด้วย
-------------
Epilogue - in the rain
เรย์จิ: ผมตั้งใจทำร้ายคุณอยู่ครับ
และไม่คิดจะรับการขออภัยทั้งนั้นด้วย
จุน: แต่….
ฉัน ทำยังไงก็คงความสัมพันธ์กับผู้คนได้ไม่ดีเลย
ไหนจะทำตัวชวนน่าหงุดหงิดให้ผู้คนรอบข้างทั้งนั้น… เพราะงั้นตัวคาราสึมะคุงก็…
ขอโทษนะ… ที่ฉันทำให้นายต้องทำสีหน้าแบบนี้
เรย์จิ: ….. อึก
(ตัดฉากดำ)
??? (สำเนียงเกียวโต): ไม่เป็นไร แค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก
นี่เป็นความฝัน เป็นฝันที่ดีมากเลยล่ะ
แต่ว่า เพราะเป็นฝันถึงมีวันที่ต้องตื่น คุณพ่อเองก็พูดไว้แบบนี้นี่?
??? : เพราะฉะนั้น ขอร้องล่ะ…
อย่าร้องไห้แบบนี้เลยนะ… เรย์จิ
เรย์จิ: ถึงอย่างนั้น ผม---
ไม่อยากให้คุณล้มเลิกความฝันไปเลย
(ตัดฉากกลับมา)
เรย์จิ: …..
เรย์จิ: คนประเภทอย่างคุณ จะถูกเรียกว่า “ผู้อ่อนแอ” ก็คงไม่ผิดสินะครับ
… “ผู้อ่อนแอ” ไม่ว่าเวลาใด ก็จะเป็น “ฝ่ายที่ถูกสูบเลือดสูบเนื้อ” เสมอ
เรย์จิ: ….. ผมไม่คิดจะกลายเป็น “ผู้อ่อนแอ”
เช่นเดียวกับคนแบบคุณอีกต่อไปแล้วครับ
เรย์จิ: ผมจะเป็นมนุษย์ฝั่งที่เป็น “ผู้สูบเลือดสูบเนื้อ” ผู้อื่น
ดังนั้น ---
เรย์จิ: หากคุณไม่อยากกลายเป็นอาหารและถูกกัดกิน
จงอย่าเข้าใกล้ตัวผม และ εpsilonΦ ครับ
[ แชร์เฮาส์วง εpsilonΦ ]
(เสียงเปิดประตู)
เรย์จิ: ………
ทาดาโอมิ: กลับมาแล้วหรอ เรย์จิคุง
เรย์จิ: อืม
ทาดาโอมิ: .... เรย์จิคุง ทำสีหน้าแบบเดียวกับก่อนหน้านี้เลย
ไปเจอกับคุณสุซากิมาหรอ?
เรย์จิ: นายนี่มันไม่เปลี่ยนไปเลย....
เพลาๆ เรื่องสังเกตการณ์มนุษย์ซะบ้าง
เรย์จิ: มีบางเวลาที่ขุดคุ้ยคนอื่น และรับรู้ในเรื่องที่ไม่อยากรู้อยู่ด้วย
ทาดาโอมิ: เรื่องที่ไม่อยากรู้คือ?
เรย์จิ: ….. คนที่หกล้มอยู่ตรงนั้น ในครั้งแรกฉันยื่นมือออกไปช่วย
แต่ในครั้งที่สอง ฉันไม่ได้ยื่นมือออกไปเลย
ในครั้งแรก ฉันแกล้งทำเป็นใจดีสนิทชิดเชื้อ
ในครั้งที่สอง นั่นคือตัวจริงของฉัน---
เรย์จิ: … แต่ ถ้าเป็นตัวฉันในอดีต
คงจะยื่นมือไปหาโดยไม่ลังเลเลยล่ะ
เรย์จิ: (ฉันตั้งใจสวมหน้ากากมามากมายหลายตา
เพื่อปกปิด “ตัวตนที่แท้จริง” เอาไว้)
(แต่ว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่หนึ่งในหน้ากากนั้น
กลายมาเป็น “ตัวตนที่แท้จริง” ไปแล้ว)
เรย์จิ: (--- พี่ครับ ผมคงจะไม่สามารถกลับมาเป็น “ตัวผมในอดีต” ได้อีกต่อไปแล้ว)
เรย์จิ: ไม่อยากจะรู้เลยนะ
ทาดาโอมิ: เรย์จิคุงแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาให้เห็น… แปลกตาจังเลยเนอะ
เรย์จิ: … ฉันอาจจะได้รับอิทธิพลจากชายที่ยอมรับในความอ่อนแอของตัวเองก็ได้
เรย์จิ: (.... และฉันไม่ควรจะเตือนเขาแต่แรกเลยด้วย)
เรย์จิ: วันที่ฝนตก ทำให้จิตใจไม่สงบจริงๆ
ทาดาโอมิ: ไหวมั้ย?
เรย์จิ: ไม่มีปัญหา
ฉันไม่คิดจะให้ความฝันมันจบลงแค่ความฝันหรอก
เพื่อการนั้น จึงต้องให้ εpsilonΦ เอาชนะการแข่งLRเฟสให้ได้
ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการแบบไหน
(ตัดฉากดำ)
เรย์จิ: ไม่ว่าฉันจะต้องสวมหน้ากากอำมหิตเพียงใดก็ตาม---
(End)